โรคระบบประสาทเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยและทำให้ร่างกายอ่อนแอลงซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก อาจทำให้เกิดอาการได้หลากหลายรวมถึงอาการปวด ชาและรู้สึกเสียวซ่าที่มือและเท้า ในกรณีที่รุนแรงอาจนำไปสู่การตัดแขนขาได้
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคปลายประสาทอักเสบจากเบาหวานแต่มีวิธีการรักษาที่สามารถช่วยจัดการกับอาการได้ แนวทางการรักษาแบบใหม่ที่น่าหวังวิธีหนึ่งคือการใช้สารตั้งต้นของ NAD+
งานวิจัย NAD+ ช่วยผู้ป่วยเบาหวานได้
ในปี 2022 เว็บไซต์ Molecular Sciences ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ สารตั้งต้นของ NAD+ ช่วยซ่อมแซมการทำงานของไมโตคอนเดรียในผู้ป่วยเบาหวาน ทำให้อาการเบาหวานดีขึ้นได้
NAD+ เป็นโคเอ็นไซม์ที่จำเป็นต่อการผลิตพลังงานในเซลล์ ระดับ NAD+ จะลดลงตามอายุและการลดลงนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น เบาหวาน และโรคระบบประสาท
การศึกษาพบว่าสารตั้งต้นของ NAD+ สามารถเพิ่มระดับ NAD+ ในร่างกายได้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าปรับปรุงการทำงานของเส้นประสาทและลดการอักเสบในสัตว์ที่เป็นโรคระบบประสาทเบาหวาน
มีการทดลองในหนูทดลองที่ป่วยเป็นเบาหวาน นำมาให้ NR (สารตั้งต้นของ NAD+) เป็นเวลา 20 สัปดาห์ จากนั้นทำการตรวจสอบ ระดับน้ำตาลในเลือด และ ระดับคอเลสเตอรอล ดีขึ้น พบว่า NAD+ ช่วยทำให้ไมโตคอนเดรียทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้อาการเบาหวานในหนูลดลง
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเบื้องต้นว่าสารตั้งต้นของ NAD+ อาจมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคปลายประสาทอักเสบจากเบาหวานในมนุษย์ การทดลองทางคลินิกขนาดเล็กแสดงให้เห็นว่าสารตั้งต้นของ NAD+ ช่วยปรับปรุงการทำงานของเส้นประสาทและลดความเจ็บปวดในผู้ป่วยโรคระบบประสาทจากเบาหวาน
อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันข้อค้นพบเหล่านี้ สารตั้งต้นของ NAD+ ยังถือว่าเป็นยาใหม่ในการวิจัยและยังไม่ได้รับการอนุมัติสำหรับการรักษาโรคปลายประสาทอักเสบจากเบาหวาน
คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับ ผู้ที่เป็นเบาหวาน
อาการเบาหวานมักเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต การทานมากเกินไป การทานหวานจัด มันจัด ทำให้ร่างกายได้ โกคูสมากเกินไป จนร่างกายย่อยน้ำตาลนั้นไม่ทัน วิธีการรักษาอาการเบาหวานเบื้องต้น คือ งดทานของหวาน ของมัน ควบคุมการทานอาหาร ก็จะช่วยให้ร่างกายไม่ต้องย่อยน้ำตาลในเลือดที่มากเกินไปแล้ว แต่หากใครต้องการดูแลเบาหวานอย่างได้ผลแนะนำให้ทำตามนี้
- ทำ IF 16/8 คือ การจำกันเวลาทานอาหารให้อยู่ใน 8 ชั่วโมง และ งดทานอาหาร 16 ชั่วโมง ทานได้แต่น้ำตาล จะช่วยให้ร่างกายผลิตอินซูลินที่มาช่วยกำจัดน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
- ออกกำลังด้วยการเดินเร็ววันละ 20 นาที ขึ้นไป ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดได้ดีขึ้น และ เผาผลาญพลังงานในร่างกายมากขึ้น ร่างกายจะนำไขมันไปใช้
- นอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 6-8 ชั่วโมง ร่างกายจะผลิตโฮโมนไปช่วยจัดการระดับน้ำตาลในเลือดได้
- จัดารความเครียด การทำให้ตัวเองไม่เครียดถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะว่า ความเครียดจะหลั่งคอติซอลมากเกินกว่าร่างกายต้องการ ทำให้ระบบการทำงานในร่างกายทำงานผิดปกติ เบาหวาน ส่วนหนึ่งก็มาจากความเครียด
- ทานผัก ผลไม้ที่ไฟเบอร์สูง ให้มากขึ้น จะช่วยลดหรือคงระดับน้ำตาลในเลือดได้
สุดท้ายแล้ว
หากเริ่มรู้ตัวว่าเป็นเบาหวาน ควรรีบกลับมาดูแลตัวเองให้มากขึ้น และ 1 ในวิธีดูแลตัวเอง คือ การมี NAD+ ในร่างกายให้เพียงพอ เพราะว่า NAD+ เป็นเหมือนเชื้อเพลิงให้ เครื่องจักรในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองกันนะ โดยเฉพาะคนที่อายุ 30+ แล้ว
แหล่งข้อมูล
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ